Ep16 ถ้าลดทำบาปชีวิตจะดีขึ้นเอง

คริสเตียนยังมีจุดต้องปรับปรุงอยู่เสมอ จึงอธิษฐานขอความช่วยเหลือ แต่ประสงค์ให้ผู้เชื่อทุกคน “จะโตเป็นผู้ใหญ่เต็มที่ คือเต็มถึงขนาดความไพบูลย์ของพระคริสต์”

มนุษย์รับผลดี-ผลเสียจากสิ่งที่พวกเขากระทำ:

โยบ.35:8 ความอธรรมของท่านก็เป็นอันตรายแก่คนอย่างท่านและความชอบธรรมของท่านก็เป็นประโยชน์แก่มนุษย์

          สิ่งที่มนุษย์ทำไม่มีผลต่อพระเจ้า แต่มีผลต่อตัวเองและคนอื่นๆ

          1. มีผลต่อตัวเอง

            กฎเกณฑ์พระเจ้าชัดเจน ใครหว่านสิ่งใดเก็บเกี่ยวสิ่งนั้น

            คำสอน ธรรมบัญญัติระบุชัดถึงผลดี-ผลเสียของการทำตามหรือละเมิดคำสอนของพระเจ้า

ฉธบ.28:1-2

1 "ถ้าท่านทั้งหลายเชื่อฟังพระสุรเสียงของพระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่าน และระวังที่จะกระทำตามพระบัญญัติของพระองค์ซึ่งข้าพเจ้าบัญชาท่านในวันนี้ พระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่านจะทรงตั้งท่านไว้ให้สูงกว่าบรรดาประชาชาติทั้งหลายทั่วโลก

2 พระพรเหล่านี้จะตามมาทันท่าน ถ้าท่านทั้งหลายฟังพระสุรเสียงของพระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่าน

กท.6:7-8

7 อย่าหลงเลย ท่านจะหลอกลวงพระเจ้าไม่ได้ เพราะว่าผู้ใดหว่านอะไรลง ก็จะเกี่ยวเก็บสิ่งนั้น

8 ผู้ที่หว่านในย่านเนื้อหนังของตน ก็จะเกี่ยวเก็บความเปื่อยเน่าจากเนื้อหนังนั้น แต่ผู้ที่หว่านในย่านพระวิญญาณ ก็จะเกี่ยวเก็บชีวิตนิรันดร์จากพระวิญญาณนั้น

          2. มีผลต่อคนอื่น

            นอกจากมีผลต่อตัวเองก่อนแล้ว จะส่งผลต่อคนรอบข้างและคนในสังคม ดังจะเห็นว่าเมื่อคนหนึ่งทำบาป ชักนำให้คนรอบกายทำบาป บางครั้งผลของบาปกระจายตัวสู่ชุมชน กระทบทั้งเมืองและขยายออกไป

            หลักการพระเจ้าสอนเรื่องนี้ จึงเน้นอย่าให้ผู้ใดเพียงคนหนึ่งกระทำบาป หากพบใครคนหนึ่งในชุมชนทำบาปต้องรีบจัดการอย่างเด็ดขาด

1คร.5:1-6

1 มีข่าวเล่าลือว่า ในพวกท่านมีการผิดประเวณี และการผิดนั้นถึงแม้ในพวกต่างชาติก็ไม่มีเลย คือเรื่องมีว่า คนหนึ่งได้เอาภรรยาของบิดามาเป็นเมียของตน

2 และพวกท่านยังผยองแทนที่จะเป็นทุกข์เป็นร้อน ท่านควรที่จะตัดคนที่กระทำผิดเช่นนี้ออกเสียจากพวกท่าน

3 แม้ว่าตัวข้าพเจ้าไม่ได้อยู่กับพวกท่าน แต่ใจของข้าพเจ้าก็อยู่ด้วยเสมือนว่าข้าพเจ้าได้อยู่ด้วย ข้าพเจ้าได้ตัดสินลงโทษคนที่ได้กระทำผิดเช่นนั้น

4 ในพระนามของพระเยซูองค์พระผู้เป็นเจ้า เมื่อท่านทั้งหลายประชุมกันและใจของข้าพเจ้าร่วมอยู่ด้วย พร้อมทั้งฤทธิ์เดชของพระเยซูองค์พระผู้เป็นเจ้าของเรา

5 พวกท่านจงมอบคนนั้นไว้ให้ซาตานทำลายเนื้อหนังเสีย เพื่อให้จิตวิญญาณของเขารอด ในวันของพระเยซูองค์พระผู้เป็นเจ้า

6 การที่ท่านอวดอ้างนั้นไม่สมควรเลย ท่านไม่รู้หรือว่าเชื้อขนมเพียงนิดเดียว ย่อมทำให้แป้งดิบฟูทั้งก้อน

            ในสมัยพระคัมภีร์เดิม คนทำบาปบางเรื่องเพียงครั้งเดียว ต้องรับโทษด้วยการถูกหินขว้างตาย

แม่แบบ:

            มีคำพูดเสมอว่าครูเป็นแม่แบบของเด็ก จึงต้องมีครูที่ดีเป็นแบบอย่างแก่เด็กทั้งเรื่องวิชาความรู้ และที่อาจสำคัญกว่าคือลักษณะชีวิต นิสัย คำพูด กริยาท่าทาง

            ด้วยหลักการเดียวกัน พ่อแม่ ทุกคนที่ใกล้ชิดเด็กต่างมีฐานะเป็นแม่แบบด้วย ลูกหลานของเรา (ไม่ว่าจะตั้งใจหรือไม่) เด็กทั้งหลายค่อยๆ เรียนรู้ซึมซับแบบอย่างคนรอบข้าง บริบทรอบกายที่เขาสัมผัสเข้าถึง สิ่งแวดล้อมจึงหล่อหลอมเขาขึ้นมาและมีผลต่อชีวิต 

            ชีวิตของแต่ละคนจึงมีผลต่อคนอื่น คริสเตียนที่เติบโตฝ่ายวิญญาณ ลูกหลานของเขาจะเห็นแบบอย่างนั้นตั้งแต่เด็กและเห็นแบบอย่างนั้นเป็นประจำ

ลดทำบาป ชีวิตจะดีขึ้นเอง:

            บางคนอ้างข้อพระคัมภีร์ว่าถ้าอธิษฐานแล้วพระเจ้าจะแก้ปัญหาให้ ไม่ว่าเรื่องใดๆ ก็ตาม เป็นความจริงที่คริสเตียนมีจุดต้องปรับปรุงอยู่เสมอ จึงต้องสารภาพบาป ขอความช่วยเหลือ แต่พระองค์มีคำสอนอื่นด้วย ประสงค์ให้ผู้เชื่อทุกคน “จะโตเป็นผู้ใหญ่เต็มที่ คือเต็มถึงขนาดความไพบูลย์ของพระคริสต์”

อฟ.4:13-14

13 จนกว่าเราทุกคนจะบรรลุถึงความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันในความเชื่อ และในความรู้ถึงพระบุตรของพระเจ้า จนกว่าเราจะโตเป็นผู้ใหญ่เต็มที่ คือเต็มถึงขนาดความไพบูลย์ของพระคริสต์

14 เพื่อเราจะไม่เป็นเด็กอีกต่อไป ถูกซัดไปซัดมาและหันไปเหมาด้วยลมปากแห่งคำสั่งสอนทุกอย่าง และด้วยเล่ห์กลของมนุษย์ตามอุบายฉลาดอันเป็นการล่อลวง

            ถ้าท่านเป็นพ่อแม่ ท่านอยากให้ลูกของท่านแบมือขอท่านเรื่อยไปเพราะช่วยตัวเองไม่ค่อยได้ (เหมือนเด็กเล็กๆ ที่พ่อแม่ต้องคอยป้อนน้ำป้อนข้าว) ไม่รู้จักโต ต้องให้อภัยอยู่เสมอเพราะทำบาปสารพัดแทบไม่พัฒนาหรือไม่ ความคิดของพระเจ้าต่อผู้เชื่อก็เป็นเช่นนั้น

            คำถาม: ทำไมพระเจ้าต้องการให้ผู้เชื่อเป็นผู้ใหญ่ฝ่ายวิญญาณ (ตอบให้ครอบคลุมทั้งต่อตัวเองและผู้อื่น)

            ถ้าคริสเตียนลดทำบาป ชีวิตจะดีขึ้นเอง (แน่ละจะส่งผลต่อลูกหลานคนใกล้ชิดด้วย) เป็นผู้ใหญ่ฝ่ายวิญญาณมากขึ้น

-----------------------